ห อ ม ดิ น อี ส า น
ตอน...อีสานต้อง แ ล้ ง เข้าใจบ่?
อีสาน...ทำไมต้องแล้ง? (1)
ดิน...แยก แตกระแหง ต้นใบไม้เฉาแห้ง ...แรงไม่....มี
นี่คือ 1 ในร้อยๆ บทเพลงที่สะท้อนสภาพของผืนดินอันเป็นที่เกิดของไม่เฉพาะตัวเรา หากรวมถึงปู่ ย่า ตา ทวด โคตรเหง้าของเรา นี่เฉพาะในเพลงลูกทุ่ง หากนับรวมเพลงเพื่อชีวิต โดยเฉพาะเพลงของวงฅาราวาน ยิ่งสะท้อนภาพให้เห็นยิ่งกว่าความแห้งแล้ง เห็นขนาดความทุเรศทุรัง แร้นแค้นของชีวิตผู้คนในอีสาน
ด้วยภาพพจน์ ที่ทำให้เราเห็นแต่ด้านร้ายๆ ไม่พึงประสงค์ แถมยังพ่วงด้วยความยากจนเพราะแห้งแล้งเข้าไปอีก จึงทำให้ลูกหลาน เยาวชนของเราบางส่วน อายที่จะบอกกับใครๆ ว่า ตนเป็นคนอีสาน แถมกลับมาดูถูกพี่น้องของตนเสียอีก... คิดไปมันก็น่าเห็นใจ เพราะใครก็ไม่อยากต่ำต้อยน้อยหน้าคนอื่น นั่น... เพราะเขาไม่เข้าใจ ไม่รู้จักแผ่นดินอีสาน
อ่านบทความนี้ครบทั้งสี่วัน แล้วเขาอาจจะเห็นแง่มุมดีๆ ของแผ่นดินนี้บ้าง
ชาวอีสานได้พยายามแก้ไขสิ่งนี้ นักการเมืองต่างก็ทำหน้าที่ในสภาฯ เพื่อเรียกร้องให้รัฐจัดสรรงบประมาณเพื่อประทังความอดอยาก และเสนอให้แก้ปัญหาความแห้งแล้ง นัยว่า หากแก้ปัญหาความแห้งแล้งเพียงอย่างเดียว ก็จะแก้ปัญหาอื่นๆ ได้หมด
ส.ส.บางท่านถึงกับแถลงว่า ศัตรูของคนอีสานคือความแห้งแล้ง ถ้าแก้แล้งได้ ทุกอย่างที่ดีๆ ก็จะตามมา แล้วก็มีการสร้างเขื่อน สร้างฝายกันยกใหญ่
ไม่นับรวมที่ขวนขวายหาทางผันน้ำจากแม่น้ำโขงและแม่น้ำสาขา บางโครงการก็ลงมือไปแล้ว ผลาญงบไปมหาศาลไปแล้ว บ้างก็อยู่ระหว่างการรณรงค์เพื่อให้มีการเติมน้ำเข้าสู่อีสาน ราวกับว่า ถ้าพูดเรื่องหาน้ำมาให้อีสานแล้ว จะถูกใจผู้คนในแผ่นดินอันแห้งผากนี้
ดูก่อน...ผู้ปรารถนาดีต่ออีสานทั้งหลาย โปรดฟังเสียงคนที่อยู่กับแผ่นดินนี้บ้าง
ผมเคยให้สัมภาษณ์กับทีวีไปอย่างน้อย 2 รอบ เมื่อ 2 ปีก่อน แต่ดูเหมือนไม่เกิดผลใดๆ วันนี้ ผมมีสื่อในมือ แม้มันจะเล็กเท่าฝ่ามือ และสื่อสารในวงแคบ ผมก็จะทำ ขอมีสักคนที่เงี่ยโสตสดับ ผมก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว
อีสานต้องแล้ว ไม่แล้งไม่ได้!!!
อันแผ่นดินอีสานคือแผ่นดินที่ตั้งบนที่ราบสูง ลักษณะผิวดินเป็นลอนคลื่น และลาดเทลงสู่ที่ลุ่มคือแม่น้ำ ทั้งแอ่งสกลนครและแอ่งโคราช ด้วยลักษณะภูมิประเทศเป็นเช่นนี้ ทำให้น้ำฝนที่ตกลงมาจึงรี่ไหลลงสู่ที่ลุ่มอย่างรวดเร็ว ...แล้วดินก็แห้ง เพราะน้ำไม่ขัง
ใช่... แล้วมันก็แล้ง
มีนี้ลองมุดลงไปดูที่ใต้พิภพ...ก็พบว่า ใต้แผ่นดินอีสานเป็นโดมเกลือ (salt dome) ก็ภูเขาเกลือนั่นแหละ พูดให้มันเท่ ให้ดูเหมือนคนมีความรู้กับเขามั่ง
เราไม่ต้องมุดลงไปจริงๆ ดอกดูผิวดินข้างบนนี้ก็ได้ จะเห็นว่า ดินส่วนใหญ่เป็นดินเค็ม ใครไม่เคยเห็นหรือไม่รู้จัก "ดินเอียด" ยกมือขึ้น
ดินเอียด ดินบ่อ หรือขี้ทา มีให้เห็นทุกหัวระแหง แม้แต่สนามฟุตบอลของ ม.ราชภัฏอุดร ปลูกหญ้าจนหมดอธิการไปหลายคนแล้วก็ยังไม่ขึ้น เพราะดินมันเค็ม ก็ใต้แผ่นดินบริเวณนั้นเป็นยอดโดม
ที่ใดที่ยอดภูเกลือทะลึ่งขึ้นมา ตรงนั้นก็จะใกล้ผิวดินมากที่สุด เกลือก็จะปะทุขึ้นมาให้เห็น แต่ที่ใดเป็นไหล่ เป็นตีนเขาก็จะอยู่ห่างหน้าผิวดิน ตรงนั้นจะไม่มีขี้ทา หรือขี้เกลือขึ้น
แต่.....ไม่ได้หมายความว่าบริเวณนั้น จะรอดพ้นไปได้ ต่อเมื่อใดที่มีปัจจัยให้น้ำเกลือใต้ดินเชื่อมกับหน้าดิน เมื่อนั้น ตรงนั้น ก็จะกลายเป็นดินเค็มในที่สุด
การที่จะทำให้น้ำเค็มใต้ดินกับหน้าดินมิให้เชื่อมกันได้ คือ ต้องทำให้หน้าดินแห้งอย่างน้อยก็เกือบครึ่งปีจึงจะกันได้ดี พูดง่ายๆ คือต้องตากหน้าดินอย่างน้อย 4-6 เดือน
ธรรมชาติจึงสร้างกลไกพิเศษที่แผ่นดินอื่นไม่มี คือ ประทานฤดูแล้งให้ภาคอีสาน ตั้งแต่ออกพรรษาถึงสงกรานต์ถือเป็นหน้าแล้ง
ข้าราชการหลายท่านมาภาคอีสานเห็นแล้วตกใจ แล้วเรียกปรากฏการณ์นี้เสียเพราะพรื้งว่า แล้งซ้ำซาก แล้วก็ระดมสมองแก้ปัญหา แน่นอน ... ปรากฏการณ์นี้เป็นอาหารอันโอชะของนักการเมืองที่จะอ้างเอางบฯ มาละเลงกันสนุกมือ
ธรรมชาติมิเคยลำเอียง มิมีสิ่งใดเที่ยงตรง สัตย์ซื่อเกินกว่าธรรมชาติ ธรรมชาติย่อมมีเหตุผล หากอีสานไม่แล้ง ป่านนี้ รับรองว่า จะไม่เหลือเผ่าพันธุ์นี้ค้างแผ่นดิน
ใครก็อย่าได้อุตริคิดเติมน้ำให้อีสาน ...
ข้อพิสูจน์ว่าอีสานมีน้ำมากไม่ได้ หรือการเพ้อฝันว่า ถ้ามีน้ำเสียอย่าง อีสานก็จะกลายเป็นแผ่นดินทอง ขอจงเลิกฝันได้
ข้อพิสูจน์คือ เขื่อนทุกเขื่อนในอีสานล้วนแล้วแต่พบปัญหาดินเค็มทั้งๆ ที่ก่อนมีเขื่อนไม่มีปัญหานี้
เท่านี้ก็น่าจะเป็นอุทาหรณ์เตือนใจแก่ผู้ปรารถนาดีแต่ประสงค์ร้ายได้ยับยั้งชั่งใจกันบ้าง
แล้วจะทำอย่างไร ...
ข้อเขียนนี้มี 4 ตอน ฟังเหตุผลให้ครบก่อนว่า ทำไมอีสานถึงต้องแล้ง